ลำดับ | ถาม-ตอบ ข้อสงสัย | ข้อมูล ณ วันที่ |
---|---|---|
1) | ถาม : ค่ารักษาพยาบาล กรณีเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชน ต้องมีหนังสือรับรองกรณีหากไม่ได้รับการรักษาอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เพื่อประกอบการเบิกจ่ายหรือไม่ ? ตอบ : ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง แต่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากระบบคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉิน (Emergency Preauthorize) ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ว่า “เข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน” กรณีผู้ป่วยหรือบุคคลในครอบครัว เข้ารับการรักษาด้วยตนเองหรือโดยการส่งตัวให้เข้ารับการรักษาพยาบาล ในสถานพยาบาลเอกชน 1. ผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉิน จนกว่าจะได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าพ้นภาวะวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได้ ทั้งนี้ ไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับแต่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารับการรักษาบาลในสถานพยาบาลเอกชน 2. กรณีได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ทำการรักษา ว่าพ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายกลับไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได้ แต่ปฏิเสธการย้าย ผู้มีสิทธิ์ไม่ได้สิทธิเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล นับแต่พ้นภาวะวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายกลับไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได้ 3. กรณีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีความจำเป็นต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลของเอกชนเกิน 72 ชั่งโมง นับแต่เข้ารับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลหลังเวลา 72 ชั่งโมง ดังนี้ 3.1 ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า “ไม่พ้นภาวะวิกฤต และไม่สามารถย้ายกลับไปสถานพยาบาลของทางราชการได้” มีสิทธิเบิกเช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของราชการ (1) ค่าห้องและค่าอาหาร (2) ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดโรค (3) ค่ารักษาประเภทอื่น ๆ ให้เบิกได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินทั้งหมดที่ได้จ่ายไปจริง 3.2 ได้รับการวินิจฉัยว่าจากแพทย์ผู้ทำการรักษา “พ้นภาวะวิกฤต และสามารถย้ายกลับไปสถานพยาบาลของทางราชการได้ แต่ไม่มีเตียงสถานพยาบาลของราชการรับย้าย” มีสิทธิเบิกเช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของราชการ (1) ค่าห้องและค่าอาหาร (2) ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดโรค (3) ค่ารักษาประเภทอื่น ๆ ให้เบิกได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินทั้งหมดที่ได้จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 8,000 บาท 3.3 ได้รับการวินิจฉัยจากระบบคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินว่า “เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วนหรือผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุ่นแรง” มีสิทธิเบิกเช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของราชการ (1) ค่าห้องและค่าอาหาร (2) ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดโรค (3) ค่ารักษาประเภทอื่น ๆ ให้เบิกได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินทั้งหมดที่ได้จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 8,000 บาท กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
| 30 ก.ย. 2564 |
2) | ถาม : คู่สมรส(ไม่ได้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยขอนแก่น) สามารถเบิกสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลในส่วนของค่าสนับสนุนการตรวจสุขภาพประจำปี ของผู้มีสิทธิ์เบิก (พนักงานมหาวิทยาลัย) ได้หรือไม่ ? ตอบ : 1. ค่าตรวจสุขภาพประจำปี คู่สมรส ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ "เบิกได้เฉพาะผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย" 2. ค่ารักษาพยาบาล ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย และญาติสายตรงสามารถเบิกจ่ายได้ ในส่วน 2.1 เงินสนับสนุนค่ารักษาสำหรับผู้ป่วนใน เบิกจ่ายได้เฉพาะส่วนที่เกินสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลและเงินประกันชีวิต วงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี เงินเหลือจ่ายจากปีงบประมาณนั้นๆ สะสมได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินที่เหลือจนกระทั่งผู้ปฏิบัติงานเกษียณอายุ หรือพ้นสภาพการเป็นผู้ปฏิบัติงาน 2.2 เงินสนับสนุนค่ารักษาสำหรับผู้ป่วยนอก เบิกจ่ายได้เฉพาะส่วนที่เกินสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลและเงินประกันชีวิต วงเงินไม่เกิน 2,000 บาท ต่อปี เงินเหลือจ่ายจากปีงบประมาณนั้นๆ สะสมได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินที่เหลือจนกระทั่งผู้ปฏิบัติงานเกษียณอายุ หรือพ้นสภาพการเป็นผู้ปฏิบัติงาน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
| 3 ก.ค. 2566 |
ถาม-ตอบ ข้อสงสัย (Q&A) : รักษาพยาบาล
[ ผู้โหวตทั้งหมด : 2 คะแนนเฉลี่ย : 5 ]